ข้อบังคับ ชมรมผู้สอนวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ (ภาษาไทย)

ข้อบังคับ

ชมรมผู้สอนวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์

สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

สยามบรมราชกุมารี

------------------

หมวด 1

ข้อบังคับทั่วไป

ข้อ 1 ชื่อของชมรม ชมรมนี้ชื่อว่า “ชมรมผู้สอนวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ และให้ใช้อักษรย่อว่า “ชสบ” เรียกชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “Library and Information Science Lecturers Group”  และให้ใช้อักษรย่อว่า “LIS”

ข้อ 2 เครื่องหมายของชมรม เป็นรูปวงรี ภายในวงรีมีรูปหนังสือที่กำลังเปิดอ่านอยู่ และมีข้อความ ว่า ชมรมผู้สอนวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ 

ข้อ 3 สำนักงานของชมรม ตั้งอยู่ ณ สำนักงานที่ประธานชมรมปฏิบัติงานอยู่ 

 

หมวด 2

วัตถุประสงค์

 

ข้อ 4 วัตถุประสงค์ของชมรมเพื่อ 

  • ส่งเสริมความสามัคคีและสงเคราะห์ซึ่งกันและกันระหว่างสมาชิก
  • ส่งเสริมและเผยแพร่วิชาชีพบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ในประเทศไทย และต่างประเทศ
  • ส่งเสริมและพัฒนาการประกอบวิชาชีพและสถานภาพผู้ประกอบวิชาชีพทาง บรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์
  • ส่งเสริมการใช้วิชาชีพเพื่อบริการสังคม การพัฒนาสังคมการอ่านและการเรียนรู้ใน สถานศึกษาต่าง ๆ

 

หมวด 3

สมาชิกภาพ

 

              ข้อ 5 ประเภทสมาชิก สมาชิกของชมรมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือสมาชิกสามัญ และสมาชิก กิตติมศักดิ์

  • สมาชิกสามัญ ได้แก่ ผู้ที่สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ ได้รับเป็นสมาชิกของ สมาคมฯ และเลือกชมรม ชสบ เพื่อเป็นสมาชิกของชมรม
  • สมาชิกกิตติมศักดิ์..ได้แก่.ผู้ที่คณะกรรมการบริหารของชมรมพิจารณาเห็นว่ามี คุณสมบัติและเหมาะสมที่จะได้รับเชิญเข้าเป็นสมาชิก โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เชิญเข้าเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์

ข้อ 6 สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก 

                       6.1 สมาชิกมีสิทธิและหน้าที่ตามสิทธิของการเป็นสมาชิกของสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ           

                       6.2 สมาชิกมีสิทธิได้รับประโยชน์จากสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ และชมรมตามที่ ได้กำหนดไว้

                       6.3  สมาชิกมีสิทธิเข้าร่วมประชุมใหญ่ ร่วมการสัมมนาและทำกิจกรรมตามที่สมาคม ห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ และชมรมได้จัดขึ้น

                       6.4  สมาชิกมีหน้าที่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ

และชมรม

              ข้อ 7 การพ้นจากสมาชิกภาพ สมาชิกจะสิ้นสุดการเป็นสมาชิกต่อเมื่อ 

                       7.1  ตาย 

                       7.2  ลาออก 

                       7.3  มีความประพฤติเสียหาย อันนำความเสื่อมเสียมาสู่ส่วนรวม หรือไม่ปฏิบัติตาม ระเบียบข้อบังคับของสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ และชมรม

 

หมวด 4

การบริหารชมรม

ข้อ 8 คณะกรรมการ

8.1 ให้มีคณะกรรมการบริหารชมรมไม่เกิน 15 คน ประกอบด้วย ประธาน และรองประธาน 

เหรัญญิก เลขานุการ ผู้ช่วยเลขานุการ ประธานชมรมได้รับการเลือกตั้งจากสมาชิกของชมรมโดยตรง

          8.2 เหรัญญิก เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการให้ประธานและรองประธานชมรมเป็นผู้ คัดเลือกตามที่เห็นสมควร 

8.3 ให้ประธาน รองประธานและกรรมการบริหารชมรม ดำรงตำแหน่งสมัยละ 2 ปี และ

อาจได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการได้อีก

ข้อ 9 อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการบริหาร 

9.1 กำหนดนโยบายโดยไม่ขัดต่อวัตถุประสงค์ของสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ และ

ชมรม 

9.2 บริหารกิจการของชมรมให้เป็นไปตามนโยบายและวัตถุประสงค์ของชมรม 

9.3 ออกระเบียบต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของชมรม 

9.4 แต่งตั้งบุคคลเข้าเป็นกรรมการที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการเพื่อเข้าร่วมกิจการของชมรม 

และมีอำนาจถอดถอนได้ตามที่เห็นสมควร

9.5 พิจารณาเรียนเชิญบุคคลเข้าเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์หรือที่ปรึกษาตามที่เห็นสมควร

 ข้อ 10 การดำเนินงาน

10.1 ให้ประธานและรองประธานชมรมเป็นประธาน ถ้ารองประธานไม่อยู่ให้ที่ประชุม

พิจารณาเลือกกรรมการอื่นปฏิบัติหน้าที่แทนในการประชุมครั้งนั้น

 

10.2 ให้คณะกรรมการจัดดำเนินการประชุม 1 เดือนต่อ 1 ครั้ง เป็นอย่างน้อย เพื่อ

ปรึกษาหารือและพิจารณาปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับกิจการของชมรม 

          ข้อ 11 การพ้นจากตำแหน่งของคณะกรรมการบริหารกรรมการจะพ้นตำแหน่งหน้าที่ในกรณีต่อไปนี้ 

11.1 ตาย

11.2 ลาออก

11.3 พ้นสภาพจากการเป็นสมาชิก 

 

หมวด 5

การประชุม

 

ข้อ 12 องค์ประชุม  องค์ประชุมคณะกรรมการบริหารต้องมีกรรมการบริหารชมรมเข้าร่วมประชุมไม่

น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง มติที่ประชุมให้ดำเนินการตามเสียงข้างมาก หากคะแนนเท่ากันให้ประธานกรรมการเป็นผู้ออกเสียง ชี้ขาด

ข้อ 13 การประชุมใหญ่สามัญประจำปี ให้จัดขึ้นปีละ 1 ครั้ง โดยให้คณะกรรมการบริหารของชมรม กำหนดวันประชุมและแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 ก่อนถึงวันประชุม โดยกำหนดสถานที่ ประชุมตามความเหมาะสม

ข้อ 14 องค์ประชุมใหญ่ การประชุมใหญ่สามัญประจำปีจะต้องมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่า ร้อยละสามสิบของจำนวนสมาชิก จึงจะถือว่าครบองค์ประชุม มติที่ประชุมให้ถือคะแนนเสียงข้างมากของ สมาชิกที่มาประชุม

ข้อ 15 ถ้าการประชุมครั้งแรกไม่ครบองค์ประชุมให้เลขานุการนัดประชุมใหญ่เป็นครั้งที่สอง โดยแจ้ง

ให้สมาชิกทราบภายใน 10 วัน นับจากวันนัดประชุมครั้งแรก ในการประชุมครั้งที่สองนี้ไม่ว่าสมาชิกจะมา ประชุมเท่าใดก็ให้ถือว่าครบองค์ประชุม

ข้อ 16 การประชุมวิสามัญ การประชุมวิสามัญจะต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่าร้อยละสามสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมด จึงจะถือว่าครบองค์ประชุมและจะกระทำได้ในกรณีดังต่อไปนี้ 

                         16.1 คณะกรรมการบริหารเห็นสมควรให้มีการประชุมวิสามัญ

          16.2 เมื่อสมาชิกไม่น้อยกว่า 10 คน เข้าชื่อกันร้องขอและแจ้งวัตถุประสงค์ในการประชุมให้ คณะกรรมการนัดประชุมภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันได้รับเรื่องร้องขอดังกล่าว 

                         16.3 การประชุมวิสามัญนี้ให้ดำเนินการตามวิธีการตามที่กำหนดไว้ในการประชุมใหญ่ 

 

หมวด 6

การเงินและทรัพย์สิน

 

ข้อ 17 รายได้ชมรม ชมรมมีรายได้เพื่อดำเนินการและกิจการดังต่อไปนี้ 

17.1 ค่าบำรุงสมาชิกที่ได้รับจัดสรรจากสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ

17.2 เงินหรือทรัพย์สินช่วยเหลือและบริจาค 

17.3 รายได้จากกิจกรรมอื่น ๆ ที่ชมรมได้จัดหา

 

ข้อ 18 บัญชีของชมรม เงินทุกประเภทของชมรมต้องนำไปฝากธนาคารในนามบัญชีของชมรมโดย

คณะกรรมการบริหารชมรมเห็นชอบเพียงแห่งเดียว โดยประธานหรือรองประธานและเหรัญญิกเป็นผู้ลงนามใน การถอนเงิน 

ข้อ 19 อำนาจในการสั่งจ่ายเงิน 

19.1 ประประธานชมรมมีอำนาจจะอนุมัติก่อหนี้ผูกพันจ่ายเงินในกิจการของชมรมตาม

วัตถุประสงค์ได้ครั้งละไม่เกิน 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่านั้นให้ขอความเห็นชอบจาก คณะกรรมการ

19.2 เหรัญญิกมีอำนาจเก็บรักษาเงินสดไว้ในความรับผิดชอบไม่เกิน 3,000 บาท (สามพัน

บาทถ้วน) ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนให้ทดรองจ่าย ได้ครั้งละไม่เกิน 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) แล้วน าเสนอขอ อนุมัติต่อประธานชมรม 

19.3 การสั่งจ่ายเงินต้องมีลายมือชื่อประธานชมรมหรือรองประธานและเหรัญญิก   19.4 ให้เลขานุการ เป็นผู้รับผิดชอบสำรวจ จัดทำบัญชีพัสดุของชมรมเสนอประธาน

กรรมการก่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปีทุกครั้ง โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบการบริหารพัสดุของทาง ราชการ 

19.5 หลักฐานการเงินจะต้องเก็บรักษาไว้ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี 

 

หมวด 7

การบังคับใช้และการแก้ไขข้อบังคับ

ข้อ 20 ข้อบังคับชมรมฉบับนี้ ให้เริ่มใช้บังคับถัดจากวันประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2557 เป็นต้นไป 

และให้ยกเลิกข้อบังคับเดิมสำหรับข้อบังคับที่มี การแก้ไขเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลง ให้มีผลบังคับถัดจากวัน ประชุมใหญ่สามัญหรือวิสามัญเป็นต้นไป

ข้อ 21 การแก้ไขเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลงข้อบังคับนี้ ทำได้โดยมติของที่ประชุมใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการประชุมใหญ่สามัญหรือวิสามัญ และต้องได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของ จำนวนสมาชิกที่มาประชุม

 

หมวด 8

การเลิกชมรม

 

ข้อ 22 ชมรมอาจเลิกการดำเนินงานได้ ด้วยเหตุดังต่อไปนี้

22.1 เมื่อที่ประชุมใหญ่ของชมรมมีมติให้เลิก

22.2 คณะกรรมการบริหารของสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ฯ มีมติให้เลิกด้วยคะแนน

เสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการบริหารทั้งหมด 

22.3 สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ฯ เลิกกิจการของสมาคม

ข้อ 23 ในกรณีที่ชมรมต้องล้มเลิกไปด้วยกรณีใดก็ตาม ทรัพย์สินที่เหลืออยู่ทั้งหมดได้ชำระบัญชีแล้วให้โอนให้แก่สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ฯ

 -

หมวด 9

บทเฉพาะกาล

 

ข้อ 24 ให้สมาชิกสามัญและสมาชิกกิตติมศักดิ์ตามข้อบังคับเดิม เป็นสมาชิกตามข้อบังคับนี้ต่อไป และ

ให้ที่ประชุมใหญ่คัดเลือกคณะกรรมการบริหารชมรมโดยให้เริ่มวาระในการดำรงตำแหน่งตามข้อบังคับนี้ตั้งแต่ วันที่มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2557 เป็นต้นไป

ติดต่อเรา


ที่อยู่: ๑๓๔๖ ถนนอาคารสงเคราะห์ ๕ คลองจั่น บางกะปิ กรุงเทพฯ ๑๐๒๔
โทร : ๐-๒๗๓๔-๙๐๒๒, ๐๘๙-๘๙๓-๙๓๙๗ 
โทรสาร : ๐-๒๗๓๔-๙๐๒๑ www.tla.or.th
ID Line : tla2497

{source}<