ประวัติ
ชมรมห้องสมุดเฉพาะจัดตั้งขึ้น เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2524 จากการประชุมสามัญ ประจำปีของสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ ตามมติที่ประชุมกลุ่มย่อยชมรมห้องสมุด เฉพาะ สมควรให้มีการจัดตั้งชมรมห้องสมุดเฉพาะ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ บรรณารักษ์และผู้ที่อยู่ในวงการห้องสมุดเฉพาะ ได้มีฌอกาสพบปะ แลกเปลี่ยนความคิด เห็น และประสบการณ์ในการทำงาน ซึ่งที่ประชุมได้คัดเลือกบุคคลจำนวน 7 คน จาก หลากหลายหน่วยงานเป็นคณะทำงานชั่วคราว เพื่อดำเนินการจัดตั้งชมรมห้องสมุดเฉพาะ และจัดทำร่างข้อบังคับของชมรมฯ
ต่อมา ในปี พ.ศ. 2525 คณะทำงานชั่วคราวได้นำเสนอร่าง "ข้อบังคับชมรมห้องสมุด เฉพาะ พ.ศ. 2526" เสนอในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2525 ของสมาคมห้องสมุด แห่งประเทศไทย เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาและยอมรับร่างข้อบังคับฯ แล้วทำกาคัดเลือก คณะกรรมการบริหารชมรมห้องสมุดเฉพาะ ประจำปี พ.ศ. 2526-2527 ได้กรรมการ จำนวน 15 คน
คณะกรรมการบริหารชมรมห้องสมุดเฉพาะ
มาตรฐาน
มาตรฐานห้องสมุดเฉพาะ พ.ศ. 2553
ข้อบังคับ
ข้อบังคับของชมรมห้องสมุดเฉพาะ พุทธศักราช2559
เนื่องด้วยห้องสมุดเฉพาะมีลักษณะที่แตกต่างไปจากห้องสมุดประเภทอื่น กล่าวคือ เป็นห้องสมุดเฉพาะสาขาวิชาหลายแขนงแตกต่างกันและมีอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าได้มีการรวมตัวกันประกอบกิจกรรมร่วมกันจะทำให้สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ร่วมกันได้ เพื่อประหยัดงบประมาณและส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างบุคลากรห้องสมุดเฉพาะ ตลอดจนเสริมสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นแก่บุคลากรในวิชาชีพ จึงเห็นสมควรจัดตั้งเป็นชมรมขึ้นมีชื่อว่า “ชมรมห้องสมุดเฉพาะ” โดยกำหนดข้อบังคับของชมรม ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับของชมรมห้องสมุดเฉพาะ พุทธศักราช 2559”
ข้อ 2. ให้ใช้ข้อบังคับนี้ตั้งแต่วันที่ถัดจากวันประกาศใช้เป็นต้นไป
ข้อ 3. ให้ยกเลิกข้อบังคับของชมรมห้องสมุดเฉพาะที่มีก่อนหน้านี้เสียทั้งสิ้น
ข้อ 4. ในข้อบังคับนี้ คำว่า
“ชมรม” หมายถึง ชมรมห้องสมุดเฉพาะ
“สมาคม” หมายถึง สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
“ห้องสมุดเฉพาะ” หมายถึง ห้องสมุด ศูนย์เอกสาร ศูนย์บรรณสาร หรือเรียกชื่ออื่นที่ให้บริการในกลุ่มวิชาเฉพาะสาขาใด สาขาหนึ่ง เป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา ให้บริการแก่ผู้ใช้เฉพาะกลุ่มหรือบางกลุ่มซึ่งเป็นผู้ที่ทำงานหรือศึกษาในสาขาวิชานั้น ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานราชการ องค์กรวิจัย องค์การ บริษัทเอกชน หรือธนาคาร เป็นต้น ทำหน้าที่จัดหาหนังสือ และให้บริการความรู้ ข้อมูล และข่าวสารเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของหน่วยงานนั้น ๆแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้ 1.ห้องสมุดหน่วยราชการ สังกัด กระทรวง ทบวง กรม กองต่าง ๆ 2.ห้องสมุดของสถาบันเพื่อการค้นคว้าวิจัย 3.ห้องสมุดของรัฐวิสาหกิจ 4.ห้องสมุดของสมาคมวิชาชีพ 5.ห้องสมุดของธนาคารและสถาบันการเงิน 6.ห้องสมุดองค์กรระหว่างประเทศ 7.ห้องสมุดเฉพาะสาขาวิชา หรือ บริการเฉพาะกลุ่มบุคคล
ข้อ 5. ให้คณะกรรมการบริหารของชมรมรักษาการให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้และมีอำนาจออกระเบียบใด ๆ ได้ภายในขอบเขตแห่งข้อบังคับนี้ และไม่ขัดต่อข้อบังคับของสมาคม ด้วย
หมวดที่ 1
ข้อความทั่วไป
ข้อ 6. ชมรมนี้ชื่อว่า “ชมรมห้องสมุดเฉพาะ” ใช้อักษรย่อว่า “ชพ” เรียกชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า
“Thai Special Libraries Group” ใช้อักษรย่อว่า “TSLG”สาเหตุที่ต้องเพิ่ม T เนื่องจากไปพ้องกับอักษรย่อของชมรมห้องสมุดโรงเรียน จึงขอเปลี่ยนเป็น TSLG ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 เป็นต้นไป
ข้อ 7. ชมรมนี้เป็นชมรมในสังกัดของสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ข้อ 8. เครื่องหมายของชมรมเป็นรูปวงกลมซ้อนกัน 2 วง วงกลมในมีรูปหนังสือเปิดอยู่ตรงกลาง ด้านบนมีเทียนไข ส่งประกายรัศมีโดยรอบ ด้านล่างรูปหนังสือมีอักษร ชพ วงกลมวงนอกด้านบนมีข้อความว่า “ชมรมห้องสมุดเฉพาะ” ส่วนด้านล่างมีข้อความภาษาอังกฤษว่า “Thai Special Libraries Group” ระหว่างข้อความทั้งสองคั่นด้วยข้อความที่ระบุถึงปีที่ก่อตั้งชมรมทั้งพุทธศักราช (2526) และคริสตศักราช (1983)
ข้อ 9. สำนักงานของชมรมตั้งอยู่ที่สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ
ข้อ 10. ชมรมมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
10.1 สร้างความสัมพันธ์ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างห้องสมุดเฉพาะและสมาชิก
10.2 เผยแพร่ แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นและประสบการณ์ทางวิชาการระหว่างสมาชิก ส่งเสริมการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะในวิชาชีพของบรรณารักษ์ นักเอกสารสนเทศ และเจ้าหน้าที่ ห้องสมุดเฉพาะทุกสาขา
10.3 เป็นแหล่งกลางในการรับและสนับสนุนจากบุคคล นิติบุคคล องค์กรหรือสถาบันต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของชมรม
10.4 ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
หมวดที่ 2
สมาชิก
ข้อ. 11. สมาชิกของชมรมมี 5 ประเภท คือ
11.1 สมาชิกสามัญ ได้แก่ บุคคลผู้เป็นหรือเคยเป็นบรรณารักษ์ห้องสมุดประเภทต่าง ๆ หรือนักเอกสารสนเทศ
11.2 สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ บุคคลที่สนใจในกิจกรรมของชมรม ซึ่งคณะกรรมการบริหารมีมติรับเป็นสมาชิกวิสามัญ
11.3 สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ บุคคลที่ทำประโยชน์ต่อวงการห้องสมุดและบริการสารสนเทศตรงตามจุดมุ่งหมายของชมรม และคณะกรรมการบริหารชมรม มีมติให้เชิญเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
11.4 สมาชิกอุปการะ ได้แก่ บุคคลหรือนิติบุคคลที่ให้ความอุปการะแก่ชมรม และคณะกรรมการบริหารชมรมมีมติให้เชิญเป็นสมาชิกอุปการะ
11.5สมาชิกนิติบุคคล ได้แก่ คณะบุคคล สถาบัน หรือองค์กรซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคลที่มีความสนใจในกิจการในสาขาวิชาชีพบรรณารักษศาสตร์ สารสนเทศศาสตร์ หรือ สารนิเทศศาสตร์ และคณะกรรมการบริหารมีมติรับเป็นสมาชิกวิสามัญ
ข้อ 12. การสมัครเป็นสมาชิก ให้ปฏิบัติตามข้อบังคับส่วนที่ 2 วิธีรับสมัครสมาชิกและการขาดจากสมาชิกภาพ ของสมาคม
12.1 สมาชิกภาพของผู้สมัครสมาชิกชมรมมีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการบริหารสมาคมประชุมและมีมติรับรอง
12.2 กรณีสมาชิกในข้อ 11.2-11..5 ชมรมต้องแจ้งรายชื่อให้คณะกรรมการบริหารสมาคมทราบและมีมติรับรอง
ข้อ 13 การนับจำนวนปีของสมาชิกภาพให้เป็นไปตามรอบปีสมัคร
ข้อ 14. อัตราค่าสมาชิก
ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสมาคม ทั้งนี้ อัตราค่าสมาชิกอาจเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
ข้อ 15. สมาชิกมีสิทธิและหน้าที่ตามข้อบังคับของสมาคม และมีสิทธิดังต่อไปนี้
15.1 ได้รับสิทธิประโยชน์จากชมรมตามเงื่อนไขที่ชมรมกำหนดไว้
15.2 เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจการของชมรมต่อคณะกรรมการบริหารภายในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์และข้อบังคับของชมรม
15.3 สมาชิกสามัญมีสิทธิเลือกตั้งเป็นกรรมการบริหาร
15.4 อภิปราย เสนอความคิดเห็น ตั้งกระทู้ถาม และลงคะแนนเสียงในที่ประชุมใหญ่
15.5 เข้าร่วมกิจกรรมที่ชมรมจัดขึ้น หรือจัดร่วมกับหน่วยงาน องค์กรอื่น ๆ
ข้อ 16 สมาชิกมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้
16.1 ปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบ และประกาศของชมรม
16.2 ปฏิบัติภารกิจในนามของชมรม เมื่อได้รับมอบหมายจากประธานชมรม หรือคณะกรรมการบริหารเป็นลายลักษณ์อักษร
16.3 ปฏิบัติตามจรรยาบรรณบรรณารักษ์ นักสารสนเทศ และผู้ประกอบวิชาชีพงานสารสนเทศ
16.4 รับผิดชอบชำระหนี้สินที่ตนมีต่อชมรม
ข้อ 17. การนับปีของสมาชิกภาพรายปีเริ่มจากวันที่รับสมัครเป็นไปตามปีปฏิทิน
ข้อ 18. สมาชิกภาพของสมาชิกสิ้นสุดลงในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
18.1 ตาย
18.2 ถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
18.3 ลาออก
18.4 สิ้นสุดการเป็นสมาชิกภาพของสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ
18.5 ประพฤติเสื่อมเสียและทำให้ชมรมเสียหายหรือเสียชื่อเสียง ซึ่งคณะกรรมการบริหารของชมรมลงมติให้ออก โดยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า สองในสามของคณะกรรมการบริหารทั้งหมด การสิ้นสุดแห่งสมาชิกภาพ ให้ประกาศไว้ ณ สำนักงานของชมรมและแจ้งให้ผู้สิ้นสุดสมาชิกภาพนั้นทราบเป็นลายลักษณ์อักษร
หมวดที่ 3
กรรมการบริหาร
ข้อ 19. กรรมการบริหารของชมรมมาจากการเลือกตั้งหรือการเสนอแนะ มีจำนวนไม่น้อยกว่า 9 คน และไม่เกิน 15 คน
ข้อ 20. สมาชิกสามัญมีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งและเป็นกรรมการบริหารชมรม
ข้อ 21. การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชมรมให้ปฏิบัติตามวิธีการดังนี้
21.1 ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ปีแรกของคณะกรรมการบริหารชมรมฯ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการเสนอแนะจำนวน 3 คน จากสมาชิกสามัญของชมรมเพื่อเสนอชื่อผู้สมควรได้รับการเลือกตั้งเป็นกรรมการบริหารชมรม ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารชมรม ขณะนั้น จะร่วมเป็นกรรมการเสนอแนะมิได้
21.2 ให้กรรมการเสนอแนะจัดทำบัญชีรายชื่อสมาชิกชมรมที่ยินยอมให้เสนอชื่อและส่งบัญชีรายชื่อให้สมาชิกผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พร้อมทั้งบัตรเลือกตั้งที่ทางชมรมฯกำหนดไว้สำหรับลงคะแนน ทั้งนี้กรรมการเสนอแนะไม่สามารถรับเป็นผู้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการบริหารชมรมในปีนั้นได้
21.3 ให้สมาชิกเลือกตั้งกรรมการบริหารตามข้อ19 จากรายชื่อของกรรมการเสนอแนะโดยวิธีลงคะแนนลับ
21.4 สมาชิกแต่ละรายลงคะแนนเสียงในบัตรเลือกตั้งได้หนึ่งบัตร ปิดผนึกส่งให้ประธานกรรมการเสนอแนะภายในเวลาที่กำหนด
ข้อ 22. กรรมการเสนอแนะรวบรวมบัตรเลือกตั้งทั้งหมด เพื่อตรวจนับคะแนนบัตรเลือกตั้ง และเสนอผลการนับคะแนนต่อคณะกรรมการบริหารของชมรม
ข้อ 23. ในการจัดทำบัญชีสมาชิกชมรมที่ยินยอมให้เสนอชื่อ หากกรรมการเสนอแนะเสนอชื่อมาอย่างน้อย 9 คน และไม่เกิน 15 คน ให้กรรมการเสนอแนะนำรายชื่อดังกล่าว มอบให้คณะกรรมการบริหารชมรม เพื่อแจ้งให้สมาชิกทราบเป็นลายลักษณ์อักษรโดยไม่จำเป็นต้องมีการเลือกตั้ง
ข้อ 24.ให้คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ เลือกบุคคลในคณะดำรงตำแหน่งดังต่อไปนี้
24.1 ประธานชมรม มีหน้าที่รับผิดชอบควบคุมการบริหารกิจการงานชมรมให้เป็นไปตามข้อบังคับของชมรม เป็นตัวแทนชมรมในการติดต่อกิจการงานกับองค์กร หรือบุคคลภายนอก เป็นประธานการประชุมกรรมการบริหารและการประชุมใหญ่ รวมทั้งมีอำนาจหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับ
24.2 รองประธาน มีหน้าที่เป็นผู้ช่วยประธานทำการแทนประธานเมื่อได้รับมอบหมาย หรือเมื่อประธานไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ทั้งนี้ อาจมีรองประธานได้มากกว่า 1 คน ตามที่คณะกรรมการบริหารชุดนั้นๆ เห็นเหมาะสม
24.3 เลขานุการ มีหน้าที่ดำเนินงานด้านธุรการ และกิจการบริหารโดยทั่วไปของชมรม จัดทำและรักษา ระเบียบวาระและรายงานการประชุม
24.4 เหรัญญิก มีหน้าที่บริหารการเงินและทรัพย์สินของชมรม ทำบัญชีและทะเบียนทรัพย์สิน
24.5 นายทะเบียน มีหน้าที่รับสมัคร จัดทำและรักษาทะเบียนสมาชิก รวมทั้งติดตามสภาพการเป็นสมาชิก
24.6 ปฏิคม มีหน้าที่ต้อนรับ อำนวยความสะดวกแก่สมาชิกเมื่อมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ
24.7 ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่เผยแพร่กิจการของชมรม
24.8 วิชาการ มีหน้าที่จัดกิจกรรมทางวิชาการ ทั้งนี้ตำแหน่งในข้อ 24.3-24.8 อาจมีตำแหน่งผู้ช่วยได้เท่าที่จำเป็น
24.9 หรือกรรมการตำแหน่งอื่น ๆ ตามที่สมาคมกำหนด อาทิเช่น แผนกวารสารและสื่อสิ่งพิมพ์ หาทุน วิเทศสัมพันธ์
24.10 ให้คณะกรรมการบริหารชมรมนำเสนอรายชื่อและตำแหน่งของคณะกรรมการบริหารชมรมชุดใหม่ ต่อคณะกรรมการบริหารสมาคมภายในหนึ่งเดือน ก่อนการประชุมใหญ่ประจำปีของสมาคม เพื่อจะได้เข้าร่วมเสนอชื่อ ประธานชมรม เป็นกรรมการบริหารสมาคม
ข้อ 25. คณะกรรมการบริหารอยู่ในตำแหน่งวาระหนึ่งมีกำหนด 2 ปีวาระในการดำรงตำแหน่งของประธานชมรม ให้ดำรงตำแหน่งได้คราวละไม่เกิน 2 วาระ ติดต่อกัน
ข้อ 26. กรรมการบริหารสิ้นสุดลงเมื่อเหตุใดเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้
26.1 ตาย
26.2 ลาออก
26.3 ออกตามวาระ
26.4 ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
26.5 ขาดจากสมาชิกภาพ
26.6 ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารชมรมมีมติให้ออกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของคณะกรรมการบริหารทั้งหมด
ข้อ 27. ถ้ากรรมการบริหารตำแหน่งใดว่างลง เพราะเหตุอื่นที่ไม่ใช่หมดวาระ ให้คณะกรรมการบริหารลงมติแต่งตั้งสมาชิกผู้ที่ได้คะแนนลำดับถัดไป ดำรงตำแหน่งที่ว่างแทน และให้มีอายุเพียงเท่าวาระของกรรมการผู้ที่ตนแทน
ข้อ 28.การส่งมอบงานของคณะกรรมการบริหาร ให้กระทำภายในกำหนดหนึ่งเดือน นับจากได้เสนอรายชื่อและตำแหน่งของคณะกรรมการบริหารชมรมชุดใหม่ต่อคณะกรรมการบริหารสมาคม
ข้อ 29. คณะกรรมการบริหารมีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้
29.1 กำหนดนโยบายและดำเนินงานให้เป็นไปตามข้อบังคับของชมรม
29.2 แต่งตั้งที่ปรึกษาชมรมไม่เกิน 2 คน โดยเลือกจากอดีตประธานชมรม
29.3 แต่งตั้งสมาชิกเป็นอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
29.4 ประชุมปรึกษาหารือเพื่อดำเนินงานของชมรมอย่างน้อย 2 เดือน ต่อครั้ง
29.5 รับผิดชอบแทนชมรมในการกระทำใด ๆ ที่อยู่ในขอบเขตข้อบังคับและระเบียบชมรม
29.6 พิจารณาคำร้อง คำขอต่าง ๆ ของสมาชิกและพิจารณาสั่งการและดำเนินการตามที่เห็นสมควร
29.7 พิจารณาเชิญบุคคล นิติบุคคล องค์กรหรือสถาบันเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ / อุปการะของชมรม
29.8 พิจารณาและดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับสมาชิกภาพของสมาชิกตามที่กำหนดไว้ในข้อ 15 และ ข้อ 16
29.9 รักษาทรัพย์สินและผลประโยชน์ของชมรมมิให้เสียหาย
29.10 เรียกประชุมใหญ่สามัญและวิสามัญตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ
29.11 ทำรายงานกิจการของชมรมในรอบปี บัญชีการรับและการจ่ายเงิน บัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน งบดุล และเก็บรวบรวมหลักฐานการเงินให้เรียบร้อย
หมวดที่ 4
การประชุม
ข้อ 30. ให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของชมรมปีละ 1 ครั้ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังนี้
30.1 ในการประชุมต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่ายี่สิบคน และต้องมีกรรมการบริหารมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการบริหารทั้งคณะจึงจะถือว่าครบองค์ประชุม
30.2 ให้ประธานชมรมเป็นประธานในที่ประชุม
30.3 ในกรณีที่ประธานชมรมไม่มาประชุม หรือมาแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานเป็นประธานในที่ประชุม
30.4 ในกรณีทั้งประธานและรองประธานไม่มาประชุมหรือมาแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้สมาชิกที่มาประชุมเลือกกรรมการบริหารคนใดคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
30.5 การลงมติ สมาชิกมีสิทธิออกเสียงคนละ 1 เสียง และให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ตัดสินชี้ขาดในกรณีที่คะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมลงคะแนนเสียงเพิ่มได้อีก 1 เสียง
ข้อ 31. กำหนดการประชุมใหญ่วิสามัญ เมื่อคณะกรรมการบริหารเห็นสมควร หรือเมื่อสมาชิกมีจำนวนรวมกันไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด โดยมีสมาชิกสามัญไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้ายื่นคำร้องขอให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ คณะกรรมการบริหารต้องเรียกประชุมภายในไม่เกิน 1 เดือนนับตั้งแต่ได้รับคำร้องขอ
ข้อ 32. การประชุมคณะกรรมการบริหารต้องมีประธานหรือรองประธานมาประชุมและมีกรรมการบริหารอื่น ๆ อีก รวมแล้วไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งมาประชุม จึงจะถือว่าครบองค์ประชุม ประธานคณะกรรมการบริหาร เป็นประธานในที่ประชุมในกรณีที่ประธานไม่มาประชุม หรือมาแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้รองประธานเป็นประธานในที่ประชุม การลงมติ ให้ถือคะแนนเสียงข้างมาก ในกรณีที่คะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมเป็นผู้ชี้ขาด
หมวดที่ 5
ทรัพย์สิน
ข้อ 33. ชมรมมีรายได้และทรัพย์สิน ดังนี้
33.1 ค่าบำรุงที่สมาคม จัดสรรให้
33.2 รายได้ที่เกิดจากการจัดกิจกรรม
33.3 ทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้โดยไม่มีภาระผูกพัน ถ้าการบริจาคให้นั้นมีภาระผูกพัน จะรับได้ต่อเมื่อคณะกรรมการบริหารมีมติให้รับ
33.4 ดอกผลอันเกิดจากทรัพย์สินของชมรม
33.5 รายได้อื่น ๆ
ข้อ 34. เงินของชมรม ให้ฝากธนาคารในนามของชมรมห้องสมุดเฉพาะหรือในนามกรรมการอย่างน้อย 3 คน ประกอบด้วย ประธาน รองประธาน และ เหรัญญิก ในการเบิกถอน จะต้องมีการลงนามโดยผู้มีอำนาจลงนามไม่น้อยกว่าสองในสามคนของกลุ่มบุคคลดังกล่าว
ข้อ 35. ให้ประธานมีอำนาจสั่งจ่ายเงินได้ครั้งละไม่เกิน 20,000 บาท ถ้าเกินจำนวนดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารของชมรม
ข้อ 36. ให้เหรัญญิก มีอำนาจเก็บเงินสำรองจ่ายได้ครั้งละไม่เกิน 5,000 บาท
ข้อ 37. ให้เหรัญญิกทำบัญชีแสดงฐานะการเงินประจำเดือนเสนอต่อคณะกรรมการบริหารทุกครั้งที่มีการประชุม
ข้อ 38. ให้ถือเอาวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันสิ้นปีการเงินของชมรม และให้คณะกรรมการบริหารจัดทำรายงานกิจการของชมรมในรอบปี บัญชีการรับและการจ่ายเงิน บัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญ ประจำปีของชมรม
38.1 ให้ประธานชมรม เลขานุการ และเหรัญญิก จัดเตรียม เอกสาร ทรัพย์สิน บัญชีธนาคาร ส่งมอบให้แก่คณะกรรมการชมรมชุดใหม่ ภายใน 31 มีนาคม
หมวดที่ 6
เบ็ดเตล็ด
ข้อ 39. การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของชมรมจะกระทำได้ในการประชุมใหญ่ของชมรมด้วยคะแนนเสียงข้างมากและนำเสนอสมาคม เพื่อให้คณะกรรมการบริหารของสมาคม รับทราบ
ข้อ 40. ชมรมอาจเลิกกิจการ เพราะเหตุต่อไปนี้
40.1 ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีของชมรมมีมติให้เลิก หรือ
40.2 คณะกรรมการบริหารของสมาคม มีมติให้เลิก ด้วยคะแนนเสียงสองในสามของคณะกรรมการบริหารทั้งหมด หรือ
40.3 สมาคมเลิกกิจการ
ข้อ 41. ในกรณีที่ชมรมเลิกกิจการ ให้มีการชำระบัญชีและยกทรัพย์สินของชมรมให้แก่สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯหากสมาคมเลิกกิจการพร้อมกัน ให้ชมรมโอนทรัพย์สินของชมรมให้แก่นิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์ เกี่ยวกับการสาธารณกุศล ตามที่คณะกรรมการบริหารชมรมพิจารณาเห็นสมควร โดยได้รับความเห็นชอบจากนิติบุคคลดังกล่าว
ข้อบังคับนี้ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารชมรมห้องสมุดเฉพาะ และได้เสนอเพื่อขอความเห็นชอบและรับรองจากคณะกรรมการบริหารสมาคม ในการประชุม ครั้งที่ 4/2559 วันที่9เมษายน 2559
ประกาศ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2559
(ศาสตราจารย์พิเศษ คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต)
นายกสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ
ข้อบังคับ ฉบับ ภาษาอังกฤษ
ติดต่อชมรม
ข่าวชมรม
1. จุฬา-นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่กับห้องสมุดดิจิทัล
2. Digital Literacy โดย อารีย์ ชื่นวัฒนากำหนดการหลักสูตรอบรม
3. ยุคนี้ อะไรอะไร ก็ Digital โดย ดร. จอมขวัญ ผลภาษี
4. Library ชพ.
5. PITCHING YOUR LIBRARY By : Dr. Patamasuda Intuprapa